Friday, December 14, 2012

USC-2013 หนิงส่ง Jul 2012 สัมภาษณ์ Nov13,2012 สาบานตน Dec14,2012@San Bernadino ,CA





ประสบการณ์สัมภาษณ์ Citizen ของ Ning S. O'Young ที่ CA on Nov 13th, 2012

วันนี้ไปสัมภาษณ์ซิติเซ่นมาค่ะ ^^

หลังจากถือกรีนการ์ดมาครบสามปีเมื่อกลางเดือน July, 2012
แล้วก็ส่งเอกสารตอนปลายเดือนนั้นไปที่ศูนย์ Arizona
ใช้เวลาประมาณเดือนกว่าก็ได้ใบนัดพิมพ์ลายนิ้วมือมา ต้นเดือน August
ได้ไปพิมพ์ลายนิ้วมือวันที่ Aug 26th, 2012
ได้รับจดหมายนัดสัมภาษณ์วันที่ Oct 12th, 2012
และไปสัมภาษณ์วันนี้ Nov 13th, 2012 ที่ San Bernadino Civic Center เวลา 12.05 p.m.

เอกสารที่เค้าบอกให้เตรียมไปก็มีพาสปอร์ตของเรา กรีนการ์ดของเรา ใบทะเบียนสมรส
ใบเกิดหรือใบแสดงการเปลี่ยนสัญชาติของสามี(ถ้าไม่ได้เกิดที่อเมริกาแต่มาเปลี่ยนสัญชาติทีหลัง)
ใบหย่าหรือใบมรณะบัตรของอดีตคู่สมรส ถ้าเคยแต่งงานมาก่อนหน้านี้
เค้าบอกมามีแค่นี้เองค่ะ

หนิงไปถึงตั้งแต่ 11.30 a.m.ไปถึงก็ตรวจเอกสารตามปกติ แล้วก็นั่งรอไปพลางๆ
จริงๆบ้านหนิงอยู่ Los Angeles County แต่ไม่ทราบว่าทำไมให้เค้าไปสัมภาษณ์ที่นั่น
คิดว่าคงกระจายงานกันไป มีคนนั่งรอสัมภาษณ์ก่อนหน้าหนิงอยู่แล้วสองคน เป็นคนเชื้อสายละติโน่ทั้งคู่
คิดว่าน่าจะนั่งรออยู่ประมาณ 45 นาทีก็ถึงตาตัวเองซะที

พอเค้าขานชื่อเสร็จก็เดินตามเค้าไปที่ห้องสัมภาษณ์ คนสัมภาษณ์เป็นผู้หญิงฝรั่ง หน้าตาใจดี
เค้าให้วางกระเป๋าและเอกสาร จากนั้นให้เรายกมือขวาขึ้นมาสาบานว่าเราจะพูดแต่ความจริง
จากนั้นก็เริ่มจากถามชื่อนามสกุล วันเกิดของเราและสามี เค้าขอดูใบเกิดของลูกด้วยค่ะ(เตรียมไปพอดี)
จากนั้นก็ถามคำถามยาวเหยียดที่เราตอบไปในฟอร์ม N 400 พวกคำถามที่ว่าคุณเคยถูกจับหรือไม่
คุณเคยค้าประเวณีหรือไม่ คุณเคยลักลอบเข้าประเทศหรือไม่ คุณเคยดูถูกเชื้อชาติหรือสัญชาติหรือไม่
คุณเคยอยู่ในองกรณ์คอมมิวนิสต์หรือนาซีหรือไม่ ถามๆๆๆแล้วคำถามสุดท้ายคือ คุณมาจากประเทศไหน

จากนั้นเค้ายื่นกระดาษมาให้ ว่าให้อ่านประโยคนี้ให้เค้าฟัง ประโยคง่ายๆค่ะ Citizen can vote
พออ่านเสร็จ ยื่นกระดาษคืนให้เค้า แล้วเค้าบอกว่าให้เขียนตามที่เค้าบอก แล้วก็บอกประโยคเดียวกัน
กับที่เค้าให้อ่านนั่นแหละค่ะ

เริ่มต้นคำถาม
1. Who is the father of our country? - Gorge Washington
2. What is the name of the chif justice of the supreme court? - John Roberts
3. How many member of the representatives in the house? - 435
4. How many years do we elect the US representative? - 2 years
5. Which month do we elect the president? - November
6. Name one war fought by the US in the 19oos - Vietnam War

จริงๆมีสิบคำถามแต่หนิงตอบถูกหมดทั้งหกคำถาม เค้าเลยไม่ถามต่อค่ะ แล้วเค้าก็ยื่นใบเอกสารมาให้ดูว่า
ข้อมูล ชื่อนามสกุล เบอร์โทรต่างๆถูกต้องรึยัง พอเราบอกว่าถูกต้องหมดแล้ว เค้าก็ให้เราเซนต์ชื่อในฟอร์ม
N 400 ( ตรงส่วนท้ายสุด หน้าสุดท้ายเลย ) เค้าถามว่ามีคำถามอะไรมั๊ย และจากนั้นยื่นกระดาษให้ว่าเรา
สอบผ่านแล้ว แต่เรายังไม่เป็นซิตเซ่นสมบูรณ์แบบ ตราบใดที่เรายังไม่ได้เข้าร่วมพิธี Oath Ceremony ค่ะ ในระหว่างนี้ เค้าบอกว่าจะมีจดหมายส่งไปให้ที่บ้าน เพื่อแจ้งถึงกำหนดการ the Oath Ceremony แค่นี้เองก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ คิดว่าไม่น่าจะใช้เวลาเกิน 15 นาที

พอออกมาเสร็จก็เจอสามียืนยิ้มแฉ่งอุ้มลูกรออยู่ พอบอกเค้าว่าผ่านแล้ว เค้าก็บอกว่าเห็นมั๊ยง่ายๆเอง เค้ารู้อยู่
แล้วว่าเราต้องผ่าน เพื่อนๆคนไหนที่กำลังจะไปสอบก็ขอให้โชคดีนะคะ คำถามไม่ยากค่ะ บรรยากาศ
การสัมภาษ์ก็สบายๆ ถ้าเราอ่านในคู่มือ(คำถามร้อยข้อ)ที่เค้าแจกมาตอนไปพิมพ์ลายนิ้วมือแล้วหละก็ รับรอง
สอบผ่านแน่นอนค่ะ

หนิง Ning S. O'Young
Nov 13th, 2012

Thursday, October 18, 2012

USC-2012 ต้าส่ง Apr27,12 สอบ Aug22,12 Oath Oct13,12 รัฐมิชิแกน

USC-2012 ต้าส่ง Apr27,12 สอบ Aug22,12 Oath Oct13,12 รัฐมิชิแกน 

สวัสดีค่าเพื่อนๆบ้านยูเอสทุกคน
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณข้อมมูลดีๆที่มีประโยชน์มากๆจากเพื่อนๆที่ร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆนานา เริ่มตั้งแต่การปรับสถานะ การถอดถอนเงื่อนไข ยันสอบซิติเซ่น ซึ่งทำให้การติดต่อราชการหรือการรบกับพี่อิมนั้น ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย
Special thanks พี่แนท..พี่สาวคนโตของน้องๆในบ้านหลังนี้ คุณดาต้าและคุณอ้อ มิชิแกน  สำหรับกำลังใจและข้อมูลเฉพาะของรัฐมิชิแกน เพราะตัวเองก็เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ ไม่ค่อยรู้อะไรมากนัก ขอบคุณจริงๆค่ะ
เริ่มเลยนะคะ .. หลังจากถือกรีนการ์ดสิบปีได้เกือบสองปีเก้าเดือน ก็เริ่มเตรียมเอกสารไว้สำหรับสอบซิติเซ่น ด้วยเหตุผลเหมือนใครหลายคนที่อยากจะตัดความสัมพันธ์จากพี่อิมซะเต็มประดา
เอกสารที่ส่งไปประกอบไปด้วยอะไรบ้าง เช็คได้ที่นี่ค่ะ http://www.uscis.gov/files/article/attachments.pdf
           Time line นะคะ
Apr  27, 2012  ส่งเอกสาร
May 3,2012 เช็คถูกขึ้นเงิน
May 16,2012 รับจดมายพิมพ์ลายนิ้วมือ
June 11,2012 พิมพ์ลายนิ้วมือ
July 28,2012  รับจดหมายนัดสอบสัมภาษณ์
Aug 22,2012 สอบสัมภาษณ์
Sep 21,2012  รับจดหมายนัดสาบานตน
Oct 18,2012  สาบานตน
รวมเวลาทั้งสิ้น  5  เดือน  21  วัน
                   เนื่องจากเพิ่งย้ายบ้านมาอยู่ที่แกรนด์แรบิท มิชิแกนได้ไม่นาน ก็เดินทางไปใหนมาใหนก็ไม่ค่อยคล่อง สถานที่นัดสัมภาษณ์คือที่ศูนย์ดีทรอย ขับรถตั้งสามชั่วโมง เราไม่อยากให้พลาด ต้องไปให้ถึงที่นั่นก่อนถึงวันจริง เลยตัดสินไปจองโรงแรม
          วันที่ 22 Aug เวลานัดคือ 10.30 น.  เราไปถึงก่อนเวลาประมาณสี่สิบนาที ที่ศูยน์ดีทรอยเป็นศูนย์เล็ก (เทียบกับซีแอตเทิล วอชิงตันนะคะ)  มีระบบตรวจความปลอดภัยที่มาตรฐาน แต่ไม่เข้มงวดนัก เจ้าหน้าที่ใจดีเพราะสามารถนำอุปกรณ์ต่างๆเข้าได้ เช่นกล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ  เราและครอบครัวผ่านเครื่องตรวจแบบนั้นด้วยดี ไม่มีปัญหา หลังจากรอดมาได้ก็เกิดสัญญาณดังบี๊บๆๆและไฟกระพริบถี่ๆ เราเองก็งงเกิดอะไรขึ้น เดินตรงไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันเวลานัด แต่เธอบอกว่า “เดี๋ยวก่อนนะคะ คอมพิวเตอร์ดิฉันเริ่มรวน สงสัยไฟมีปัญหา” เราก็ยืนรอแป็บนึงหล่อนก็ขอไอดี แล้วเซ็นต์ชื่อลงในกระดาษว่าเรามาแล้ว หลังจากนั้นหล่อนก็บอกให้ไปนั่งรอหน้าห้องโถงใหญ่ ดูวุ่นวายมากเหมือนคนมายืนออหน้าห้อง แล้วก็พูดเอะอะเสียงดัง เราก็เดินตรงไปข้างหน้าเพราะอยากรู้ว่าเจ้าหน้าที่พูดอะไร เจ้าหน้าที่บอกว่าวันนี้ไฟฟ้าดับค่ะ การทำงานทุกอย่างอาจจะช้าไปหน่อย แต่ทุกคนจะได้การสัมภาษณ์จนครบ อาจจะเกินเวลาไปบ้าง ขออภัยด้วย เราเองนึกในใจว่าทำไมต้องเป็นวันของเราด้วย แต่ปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวไฟก็คงมา อากาศเริ่มร้อนค่ะ เพราะเครื่องปรับอากาศไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่เดินออกมาเรียกชื่อ คนก็เริ่มทะยอยเข้าไป เรานั่งรออยู่นานมากเลยเวลานัดไปเกือบสี่สิบนาที วันนั้นมีนัดด้วย รู้อย่างนี้เราเอาโทรศัพท์เข้ามาด้วย จะได้โทรหาเพื่อนว่าเราคงไปหาช้าหน่อย ภาวนาขอให้สอบเสร็จเร็วๆเพราะสงสารลูกๆและสามี เด็กๆเริ่มหิว เราไม่ได้เอาอะไรเข้ามาเลย ลูกก้อเริ่มงอแงเจ้าหน้าที่ชายผิวสี หน้าตาเคร่งขรึมมาก ไม่ยิ้ม  เดินออกมาเรียกชื่อ  ก็ใจดีขึ้นมา  เขาบอกว่าให้เดินตามเข้าไป เราเองก็เดินผ่านหลายๆห้องก็สอบเหมือนกับเรา แต่เนื่องจากร้อน เจ้าหน้าที่ต้องแง้มประตูไว้ เพื่อระบายอากาศ ทำให้ได้เห็นและได้ยินเสียงของห้องอื่นๆเซ็งแซ่ไปหมด ไปถึงห้อง เจ้าหน้าที่ชายก็เชิญเรานั่ง แล้วบอกว่าวันนี้คอมใช้ไม่ได้เลย ทุกอย่างต้องเขียนลงกระดาษอาจจะช้าหน่อย เราตอบว่า “ไม่เป็นไร” หลังจากนั้นก็ให้เรายืนขึ้นแล้วให้ยกมือขวาขึ้นเหมือนสาบานว่าเราจะต้องตอบทุกอย่างตามความเป็นจริง เราก็ตอบว่าไอดูหรืออะไรจำไม่ค่อยได้ค่ะ 
แล้วพี่ก็ขอดูไอดีและกรีนการ์ด และให้เช็นต์ชื่อ เพื่อยืนยันว่าเราเป็นตัวจริงเสียงจริงเริ่มถามคำถามในแบบฟอร์มที่เรากรอกไปนั่นหล่ะค่ะ ไม่ยากหรอกค่ะ ตั้งใจฟังดีๆ อันใหนเค้าพูดเร็วไปก็ให้เขาทวนใหม่ พี่แกถามแบบรวมๆแล้วก็ถามยาวๆ บางคำถามนอกเหนือจากในฟอร์มด้วย จะไม่เรียงตามที่เราเตรียมมา เสร็จคอลั่มนึง แกก็เช็คในกรอบนั้นแบบรวดเดียวจบ แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาถามเราใหม่อีกชุดใหญ่ จนจบค่ะ
หลังจากนั้นแกหยิบกระดาษขึ้นมา ก็คำถามในร้อยที่พวกเราซ้อมมานั่นเอง แต่ในกระดาษเรามองดูมีสิบข้อ แต่ถ้าตอบถูกหกข้อก่อนก็ไม่ต้องตอบหมด เข้าใจว่ากระดาษคงคละคำถามไป แล้วแต่ใครจะได้อะไร

คำถามของเรา คือ
1) When was the constitution written?
1787
2)  What is a capital of The United State?
Washington DC
3) When must all men register for the Selective Service?
at age eighteen (18)
between eighteen (18) and twenty-six (26)

4) What is a freedom of religion?
You can practice any religion or not practice a religion
5)  Name one state that borders Canada?
Michigan
6)  What ocean is on the East Coast of the United States?
Atlantic (Ocean
เสร็จหกคำถามเจ้าหน้าที่ก็ยื่นกระดาษให้อ่านว่า
Who pays taxes to the government?
แล้วยื่นกระดาษอีกใบให้เราเขียนว่า
We pay taxes.


เป็นอันเสร็จ แต่ต้องนั่งอยู่จนกว่าเจ้าหน้าที่เขียนอะไรของแกจบ เพราะเราได้เซ็นต์อีกรอบ ก่อนบอกว่าดีใจด้วยเราผ่านการสอบ แล้วก็บอกเราเรื่องพิธีสาบานตนแบบย่อๆ เจ้าหน้าที่เก็บเพียงใบนัดสอบนี่หล่ะค่ะ แล้วคืนกรีนการ์ดให้ พร้อมกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง ซึ่งข้อความเช็คตรงช่องเราผ่านการทดสอบแต่ยังไม่มีผลอนุมัติ  และบอกให้ออกไปรอข้างนอก  รวมเวลาประมาณสิบห้า ไม่เกินยี่สิบนาที เราออกมารอข้างนอกสักพัก เจ้าหน้าที่หญิงผิวสีก็ออกมาบอกว่า “ไม่ต้องรออะไรแล้วกลับบ้านได้เลย เพราะวันนี้คงทำอะไรไม่ได้ ให้รอจดหมายนัดสาบานตนที่บ้าน”  บอกตามตรงใจไม่ดีเลย ไม่รู้ว่าต้องรอ รอ รออีกนานแค่ใหน เฮ้อ..
หลังจากที่รอนานมาก ก็เช็คเคสออนไลน์ทุกวัน จนเกือบครบเดือนก็ไม่มีอะไรคืบหน้ามากเลย เลยตัดสินใจโทรหาศูนย์ ซึ่งก็ได้คำตอบว่าให้รอต่อไปอีกจนครบสี่สิบห้าวัน แล้วค่อยทำอินโฟพาส ซึ่งคำตอบนั้นไม่ทำให้เราสบายใจขึ้นเท่าไร สอบใหม่ไม่กลัวอยู่แล้วค่ะ แต่กลัวเคสตกล่นและมีปัญหาตามมากมาย
เช็คเคสออนไลน์ต่อไปจน ถึงวันหนึ่งที่เค้าอัพเดทเคส บอกไว้ว่าได้ส่งจดหมายนัดสาบานตนให้แล้ว เราก็ดีใจมาก ในที่สุดจดหมายเจ้าปัญหาก็โผล่มาที่บ้านสามวันหลังจากนั้น ได้รู้แน่แล้วว่าเราจะได้เป็นอเมริกันชนคนใหม่แน่ๆ ตอนนี้นอนหลับสบายแล้วค่ะ  รอคอยวันที่เราจะจบสิ้นกันกับพี่อิมซักที  

เทคนิคการทำข้อสอบค่ะ
จากประสบการณ์ที่ตัวเองเคยเป็นครูมาก่อน เคยออกข้อสอบมา และถนัดข้อสอบความจำ  ขออนุญาตแบ่งปันเทคนิคประจำตัว หวังว่าคงเป็นประโยนชน์กับเพื่อนๆที่กำลังอ่านหนังสือรอสอบเช่นกันนะคะ
+ให้บอกตัวเองว่า... ข้อสอบมีเพียงร้อยข้อเท่านั้น...สู้สู้ค่ะ+
1)  ขอให้เราลองฟัง ตั้งแต่ต้นจนจบลองดูก่อน
หลังจากที่ฟังครบสามสี่รอบแล้ว ให้แยกข้อง่าย ข้อยากออกมา ข้อง่ายคือข้อที่เรารู้มาบ้าง อยากเรื่องใกล้ตัวเรา เป็นต้น เช่น  What is a capital of the United Stated? บางคนอยู่วอชิงตันดีซี ก็จะตอบได้ ข้อนี้ถือว่าง่ายมากๆ ให้แยกออกมาต่างหาก หรือ Name the border between Mexico and The US?
เพื่อนคนใหนที่อยู่ในรัฐที่ติดกับชายแดนอยู่แล้ว ก็ง่ายมากๆ แยกกออกมาเลยค่ะ ส่วนขอยากคือข้อที่คำตอบยาวและคำศัพท์ยาก แยกออกมาเช่นกันค่ะ
2)  พอแยกข้อสอบออกสองส่วน ยากและง่าย แน่นอนอันง่ายเราจำได้แป็บเดียว แต่อันที่ยากหล่ะ ให้ใช้วิธีการฟังแล้วฟังอีก ฟังแต่ข้อนั้น จนจำขึ้นใจ เพราะเวลาเราไปนัดพิมพ์ลายนิ้วมือ เค้าจะให้ซีดีอยู่แล้ว ให้ใส่ในคอม ตั้งโปรแกรมเล่นคำถามเดียวก็ได้
พอจำไอ้ตัวยากได้ซักห้าคำถาม เอาตัวง่ายเข้ามาปนซักห้า ที่นี่คำถามที่เราได้ชัวร์ ก็จะได้เป็นสิบ เริ่มชุดใหม่ ฟังใหม่ ทำอยู่อย่างนี้ ฟังจนจำขึ้นใจ ไม่ยากเลย

1) พอมั่นใจในตัวเองแล้ว ลองอ่านตามและฝึกทำข้อสอบด้วยตัวเอง
ได้ที่นี่เลยค่ะ 

2)  พยายามหาคำพ้องในคำถามและส่วนคำตอบ มันจะทำให้เราจำได้ง่ายมาก เช่น

What is the name of the Vice President of the United States now?
Joseph R. Biden, Jr.
Joe Biden
Biden
คือ vice – Bi 
Name one state that borders Mexico.
California
Arizona
New Mexico
Texas
หรือ จำคำตอบที่เหมือนคำถามหล่ะค่ะ เพราะข้อนี้ให้ยกตัวอย่างแต่อันเดียว

Who was President during World War I?
(Woodrow) Wilson
เห็นอะไรที่พ้องกันแล้วใช่ไหมคะ  วู๊ดดรอว์ กับ วอร์วัน
เห็นไหมคะ..ง่ายนิดเดียว

ลิงค์ที่เป็นประโยชน์ในการสอบซิติเซ่น

ขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบค่ะ

พิธีสาบานตน
นับจากวันที่สอบสัมภาษณ์แล้ว ต้องรออีกราวเดือนเศษเพื่อที่จะรับการสาบานตนเป็นอเมริกันชนอย่างสมบูรณ์

วันที่ 18 October 2012
Oath Ceremony 9:30 am
at The Presidental Museum,Grand Rapids,MI
แต่งตัวสวยมารอก่อนเวลาค่ะ พร้อมลูกและสามีที่เป็นกำลังใจใหญ่หลวงที่สุดในชีวิต อากาศไม่เป็นใจเพราะฝนตกตั้งแต่เมื่อคืน ประตูยังไม่เปิดให้คนเข้า ก็ต้องเข้าแถวตากฝนรอข้างนอก เก้าโมงเช้า เจ้าหน้าที่ก็เปิดประตูให้ผู้ที่จะเข้ารับการสาบานตนไปเช็คเอกสาร คือเราต้องเอากรีนการ์ดคืนนะคะ และต้องเช็คว่าใบเซอร์ติฟิเคท สะกดชื่อ นามสกุลคุณถูกต้องใหม แล้วก็ต้องเซ็นต์ชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่
หลังจากนั้นก็จะมอบซองน้ำตาลให้หนึ่งซอง ภายในจะมีตารางเวลา การทำพาสปอร์ต สิทธิของซิติเซ่น ประวัติของประเทศอเมริกา และอื่นๆ แล้วให้เราไปนั่งในห้องประชุมใหญ่ รวมทั้งครอบครัวเรา เขาจะแนะนำว่าวันนี้เราจะทำอะไรบ้าง ใครเป็นผู้ให้คำปฏิญาณ แล้วต้องพูดว่าอะไร ฟังไม่ทันก็อย่ากังวลไปค่า เราดูจากกระดาษที่ เค้าแนบมาในซองได้ หลังจากนั้นก็เรียกชื่อประเทศให้เรายืนโชว์ตัว เหมือนนางงามจากประเทศต่างๆ ไล่ลำดับตามตัวอักษร คร่าวๆแล้วคนที่เข้ารับการสาบานตนมีประมาณร้อยคนได้ค่า หลังจากนั้นก็เรียกเป็นชื่อ แล้วให้เดินเรียงแถวไปรับใบประกาศนะคะ ผู้พิพากษากล่าวแสดงความยินดี และปิดท้ายด้วยเจ้าหน้าที่มาพูดเกี่ยวกัยสิทธิของซิติเซ่นคนใหม่ หลังจากนั้นก็มีวงดนตรีประสานเสียง ร้องเพลงชาติอเมริกา งานนี้ขนลุกเกรียวเลยนะคะ เพราะดูศักดิ์สิทธิ์ดี
เป็นอันเสร็จพิธีอย่างสมบูรณ์แบบ หากยังไม่สะใจ โอกาสนี้เราก็ได้ถ่ายรูปกับท่านผู้พิพากษาได้อีกหลายช็อต เต็มที่เลยค่า
เดินออกจากห้องประชุมใหญ่แล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์มารับทำพาสปอร์ตอเมริกันตรงนั้นเลย เป็นทางเลือกหนึ่งที่สะดวกกว่า เพื่อนๆคนใหนที่คิดจะทำพาสปอร์ตทันที ก็แนะนำว่าควรไปขอแบบฟอร์มจากไปรษณีย์ใกล้บ้านมากรอกไว้และไปถ่ายรูปมาเลย จะได้ไม่เสียเวลากรอกหลังพิธีเสร็จ เพราะคนจะเยอะมาก วุ่นวาย หากเราพร้อมทุกอย่างเดินเข้าไปต่อคิวได้เลยสะดวกกว่ากันมากนะคะ
อย่างของต้าเองก็ทำพาสปอร์ตอเมริกันวันนั้นเลย เพราะมีแผนในการเดินทางออกนอกประเทศแล้ว เราก็ได้ใช้ทันเวลา
การทำพาสปอร์ตแบบธรรมดา ใช้เวลาประมาณหกสัปดาห์ แต่ถ้าต้องการแบบด่วน เพิ่มเงินอีกหกสิบเหรียญ ได้พาสปอร์ตภายในเจ็ดวันทำการค่ะ

หวังว่าประสบการณ์ของต้าคงเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะคะ เอาใจช่วยเพื่อนที่กำลังจะสอบ ขอให้ผ่านฉลุยทุกคนค่ะ

Wednesday, July 18, 2012

USC-2012 โมส่ง Nov18,11 สอบ Jun18 Oath Jul25@CA


USC-2012 โมส่ง Nov18,11 สอบ Jun18 Oath Jul25@CA

timeline
Nov 18, 2011 ส่งเอกสาร
Nov 21, 2011 เอกสารส่งถึง
Nov 28, 2011 ได้รับ NOA
May 01, 2012 ได้รับจดหมายไปพิมพ์ลายนิ้วมือ
May 08, 2012 ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ
May 14, 2012 ได้รับจดหมายไปสัมภาษณ์
Jun 18, 2012 สัมภาษณ์ผ่านจ้าา
July 12, 2012 ได้รับจดหมาย Oath
July 25, 2012 Oath จ้าา

อ่าน : What do we show to pay the government.
เขียน : We pay taxes.

1. What did the Declaration of Independence do?
2. Who does a U.S. Senator repesent?
3. When is the last day you can send in federal income tax forms?
4. Who was the first President?
5. What ocean is on the West Coast?
6. Name one U.S. territory.

เคสของโม ไปเสียเวลาที่ขึ้นตอนพิมพ์ลายนิ้วมือนี่แหล่ะค่ะ โทร.ตามเจ้าหน้าที่ 1-800
เจ้าหน้าที่บอกว่า โมพิมพ์ลายนิ้วมือครั้งสุดท้าย มันยังไม่หมดอายุ (ครั้งสุดท้าย April 14, 2011)
ก็ได้แต่รอ จนจะนัด Infopass เข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ตัวต่อตัวแล้ว ก็ได้รับแจ้งเรื่องจดหมายไปพิมพ์ลายนิ้วมือซะก่อน
หลังจากไปพิมพ์ลายนิ้วมือเสร็จ เคสก็ติดจรวดเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ที่เตรียมตัวไปสอบค่าา ไม่ยากอย่างที่คิด โมได้เจ้าหน้าที่ใจดี พูดช้าค่ะ :-)


Last edited by Mocha on Sat Jul 14, 2012 5:00 pm, edited 1 time in total. 

Tuesday, May 1, 2012

USC-2012 น้ำส่่ง Jan27 สัมภาษณ์ May01



USC-2012 น้ำส่่ง Jan27 สัมภาษณ์ May01 รอจดหมายสาบานตน

ประสบการณ์ citizenship ค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกคนในเวปนี้นะคะ ที่ได้เก็บข้อมูลทุกๆอย่างตั้งแต่ เริ่มต้น หมายถึงเริ่มต้นจริงๆค่ะ ด้วยวีซ่าk-1 จนถึงวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างทำด้วยตัวเองโดยได้ข้อมูลทุกๆๆๆอย่างจากในเวปนี้เท่านั้นค่ะ ^:)^ ขอบคุณทุกๆคน ทั้งที่เคยเข้าไปเขียนถาม และช่วยกรุณาตอบให้ และหลายๆคนที่ตัวเองได้เข้าไปอ่านเพื่อเก็บข้อมูลโดยที่มิได้ทิ้งข้อความใดๆไว้ที่ โพสของท่าน นั่นเป็นประโยชน์มากมายเลยนะคะ ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ =D>
ก็เลยถือโอกาสมาเล่าประสบการณ์ที่ไปสัมภาษณ์ ซิติเซ่นวันนี้ค่ะเพื่ออาจเป็นประโยชน์กับคนหลังๆบ้างค่่ะ

Timeline ดังนี้นะคะ. (Riverside, California)
- Jan27,2012 ส่งเอกสาร N-400
- Feb02,2012 check ถูกตัดเงิน
- Feb08,2012 รับจดหมายนัด fingerprint on Feb 28,2012
- Feb28,2012 Fingerprinted
- Mar28,2012 รับ จดหมายนัดสัมภาษณ์
- May01,2012 interview at 10.05 am.

เริ่มต้นด้วยเมื่อไปถึงตึกแล้วตัดสินใจทิ้งโทรศัพท์ไว้ในรถ เพื่อไม่กดดันตัวเอง แต่เค้าก็ไม่ได้ห้ามนะคะ ตอนเดินเข้าไปก็คุยกับพี่ security ที่ตรวจของก่อนเลยว่า ชั้นตื่นเต้นมั่กค่ะ พี่แกก็บอกว่าไม่ต้องกังวล ใจเย็นๆแค่ตอบคำถาม ไม่ต้องซีเรียส (คิดในใจ ใช่สิเธอน่ะไม่ ชั้นน่ะสิ) เสร็จแล้วก็เดินขึ้นตึกชั้นสอง. ไปถึงก็ส่งกระดาษไว้ในช่อง พนักงานก็บอกให้นั่งรอ รอ. รอ ไปหนึ่งชั่วโมงกับการกดดันมหาศาล เพราะเท่าที่เห็นครึ่งๆสอบไม่ผ่าน (ที่รู้เพราะคนที่ไม่ผ่าน >< นอกจากหน้าตาที่แสดงออกแล้ว ยังต้องมายืนรอเอกสารหน้าต่างเดิมอีก :-( ) กำแล้วเมื่อไรจะถึงคิวช้านนนน พอมาถึงก็มีผู้หญิงดูแล้วน่าจะเป็นคนจีน มาเรียกเข้าห้อง
เสร็จแน่! พอเข้าไปถึงเค้าก็บอกว่าเค้าเป็นเจ้าหน้าที่งั้นงี้ ขอให้ยกมือขวา ตามระเบียบ ก็ว่ากันไป.. เสร็จก็นั่งเริ่มต้นด้วยเอกสารต่างๆถามมาตอบไป ไม่มีอะไรนอกเหนืิอจากนั้น สักห้านาทีผ่านไป เธอก็บอกโอเค เอากระดาษมาให้เซ็นชื่อ
เสร็จแล้วส่งกระดาษมาให้อ่าน บอกให้อ่านดังๆ When is Columbus day?
แล้วส่งกีะดาษมาให้เขียนว่า Washington is the capital state.
เสร็จแล้วก็เอาไปอ่าน ก็บอกโอเคผ่าน เรามาเริ่ม คำถามกัน
1 when was the Declaration of Independence adopted?
- July 4, 1776
2 Who lived in America before the Europeans arrived?
- American Indian
3 Name one of the two longest rivers in the United State?
- Mississppi River
4 What is the name of the Speaker of the house of Represenative now?
- John Boehner. ตอนแรกตอบชื่อไปแล้วว่า John เสร็จแล้วเกิดไม่มั่นใจสับสนกับ vice president ก็เลยขอให้เค้าถามใหม่ เค้าก็ยิ้ม แล้วก็ถามใหม่ ใจดีมั่กกก =p~
5 What do we call the first ten amendments to the constitution?
- The bill of rights
6 We elect a U.S Senator for how many years?
- 6 years
จบหกข้อ เค้าก็บอก แสดงความยินดีเธอสอบผ่านแล้ว... ไชโย้!!! <:-p <:-p
ขากลับตอนเดินลงมา พี่ security ยิ้มยืนรอฟังอยู่ B-)  เราก็เลยบอกผ่านแล้ว เค้าก็เลยบอกชั้นว่าแล้ว ดีใจด้วยนะ เลยรํ่าลากันเป็นการใหญ่เสมือนเป็นเพื่อนกันมาก่อน :)) :))
อยากจะบอกทุกคนว่าไม่ต้องกังวลก็คงไม่ได้ เพราะตัวเองใช้เวลาเป็นเดือนฟัง cd ฟังเป็นร้อยๆรอบจนเอียนมากๆค่ะ บอกกับตัวเองว่าเมื่อไรที่สอบผ่านสิ่งแรกที่จะทำคือโยนแผ่นทิ้ง.. :-ss แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้ทำค่ะ ได้แค่พอขึ้นรถปั๊บเปลี่ยนเป็น cd พี่เบริ์ดทันที :D เพราะถึงยังไงคนที่จะไปสัมภาษณ์ก็ยังต้องเครียดอยู่ดี ได้แค่เพียงบอกว่าขอให้โชคดีทุกคน และเตรียมตัวให้พร้อม นอนให้หลับก่อนวันไป( :-s ตัวเองยังต้องอาศัยยานอนหลับช่วยเลย) ถ้าจะบอกว่าไม่ยากอย่างที่คิด ก็คงไม่ได้ ยังไงก็ขอให้ทุกคนที่ยังต้องอดทนสู้ต่อไป...ให้โชคดีนะคะ ;)


Last edited by Nongnang on Mon May 07, 2012 4:40 am, edited 2 times in total. 

Saturday, March 3, 2012

วิธีการเปลี่ยนนามสกุลลูก (เปลี่ยนได้แล้วค่ะประสบการณ์ หน้า3)


วิธีการเปลี่ยนนามสกุลลูก (เปลี่ยนได้แล้วค่ะประสบการณ์ หน้า3)Sat Mar 03, 2012 5:02 pm nini2383


วิธีการเปลี่ยนนามสกุลลูกสำหรับเราที่มีลูกติดมาจากไทย และไม่ได้ให้สามีทำเรื่องรับเป็นบุตรบุญธรรมนะค่ะ

1 รายละเอียดสำหรับฟอร์ม N400 Part9 เป็นข้อมูลสำหรับขอซิติเซ่นของคุณไม่ใช่ซิติเซ่นของลูก ดังนั้นใส่ชื่อลูกตามใบกรีนคาร์ด
2 เมื่อคุณได้ซิติเซ่น ลูกได้อัตโนมัติ คุณสามารถขอพาสปอร์ตอเมริกันให้ลูกโดยไม่ต้องขอใบซิติเซ่นก็ได้ แต่อ่านรายละเอียดจากใบคำขอพาสปอร์ตให้ดีว่าต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง หรือคุณจะขอ N600 เอาใบซิติเซ่นก็ได้ สำหรับนามสกุลใหม่ก็ไปแจ้งเอาตอนขอซิติเซ่นหรือทำพาสปอร์ตได้

หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ นะค่ะ
ขอขอบคุณ legALQQ ที่ช่วยให้คำตอบด้วยค่ะ

viewtopic.php?p=674397#p674397 nini2383, USC-2012 nini2383 ส่งJan23 สอบ Apr23 Oath May25@AZ

Last edited by nini2383 on Wed Sep 12, 2012 4:34 pm, edited 1 time in total. 

Post Re: วิธีการเปลี่ยนนามสกุลลูก สำหรับผู้ที่กำลังจะสอบซิติเซ่นค
wichuta2112 wrote:
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะค่ะอยากสอบถามนิดนุงคือตอนนี้กุ้งกำลังยื่นขอวีซ่าให้ลูกสาวอายุไม่เกิน18ปี และกำลังจะกลับไปรับลูกมาอยู่ด้วยโดยตอนนี้กุ้งกะลังรอกรีนการ์ดสิบปีอยู่ ถ้าน้องมาก็จะได้กรีนการ์ดสิบปีเลยคำถามคือ เดือนสิงหาหลังวันที่14ปีนี้กุ้งก็จะมีสิทธิ์ยื่นสอบซิติเซ่น และลูกสาวจะอายุ18ปีเต็มในเดือนกันยาวันที่17 แอบสงสัยว่าถ้าเรายื่นสอบซิติเซ่นแล้วผ่าน ลูกสาวจะได้ซิติเซ่นตามเราหรือป่าวค่ะ ไม่แน่ใจว่าถ้่าน้องอายุเกิน18แล้วจะได้ซิติเซ่นตามแม่หรือป่าว. เรียนผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ :-)
คุณ wichuta2112 สำหรับ เด็กอายุต่ำกว่า 18 ที่มีบิดาหรือมารดาเป็นอเมริกันซิติเซ่น โดยปกติจะได้ซิติเซ่นโดยอัตโนมัติ
แต่น้องจะอายุครบ18 ปี บริบูรณ์ ก่อน หรือ ระหว่างที่พี่ยื่นเรื่องขอซิติเซ่นนี่ซิค่ะ นีนี่ไม่แน่ใจนะค่ะ เดี๋ยวรอพี่ที่เค้ารู้จริง ๆ ตอบดีกว่านะค่ะ :D

ตามหลักการณ์ของ USCISเค้าบอกไว้นะค่ะว่า
เด็กได้อเมริกันซิติเซ่นอัตโนมัติตามพ่อแม่ซิติเซ่นได้อย่างไร
เด็ก ทุกคนที่เกิดในประเทศสหรัฐฯ หรือเด็กที่เกิดนอกประเทศสหรัฐฯ โดยมีบิดามารดาเป็นอเมริกันซิติเซ่นซึ่งเคยอยู่อาศัยในประเทศสหรัฐฯ เป็นเวลานานเท่าที่กฎหมายกำหนด โดยปกติ เด็กพวกนี้ถือว่าเป็นอเมริกันซิติเซ่นโดยกำเนิด
กรณีที่เด็ก :
- มีบิดามารดาเป็นอเมริกันซิติเซ่นซึ่งไม่เคยอยู่ในสหรัฐฯ เป็นระยะเวลาเท่าที่กฎหมายกำหนดก่อนเด็กเกิด หรือ
- มีบิดามารดาเป็นอเมริกันซิติเซ่นเพียงคนเดียวหรือมีบิดามารดาแปลงเป็นสัญชาติอเมริกันหลังจากเด็กเกิด หรือ
- เป็นบุตรบุญธรรม (ลูกติดสามีหรือภรรยาไม่มีสิทธิได้อเมริกันซิติเซ่นจากบิดาหรือมารดาใหม่)
เด็กจะได้อเมริกันซิติเซ่นตามกฎหมายทันทีที่มีคุณสมบัติครบตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขทั้งหมดต่อไปนี้

เด็กได้รับอนุมัติให้อยู่ประเทศสหรัฐฯ อย่างถาวรได้ คือมีใบเขียว* และ
มีบิดาหรือมารดาเป็นอเมริกันซิติเซ่นไม่ว่าจะโดยกำเนิดหรือโดยการแปลงสัญชาติ** และ
เด็กยังอายุไม่ถึง 18 ปี และ
เด็กยังไม่ได้สมรส และ
 เด็ก เป็นบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือมีการรับรองบุตรก่อนเด็กอายุ 16 ปี (ถ้าบิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรสและบิดาไม่ได้รับรองบุตรก่อนเด็กอายุ 16 ปี เด็กไม่มีสิทธิได้อเมริกันซิติเซ่นจากบิดา) และ

กรณีบุตรบุญธรรม ต้องปฏิบัติตามกฎอิมมิเกรชั่น Section 101(b) (1) (E) or (F) of the Immigration and Nationality Act (INA) และการรับรองบุตรบุญธรรมต้องเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว และ

เด็กต้องอยู่ในประเทศสหรัฐฯ โดยบิดาหรือมารดาอเมริกันซิติเซ่นเป็นผู้มีอำนาจดูแลปกครองบุตรตามกฎหมาย (กรณีที่ได้อำนาจร่วมก็ใช้ได้) และ
เด็กต้องอยู่ในประเทศสหรัฐฯ และตัวเด็กต้องอยู่อาศัยกับบิดาหรือมารดาอเมริกันซิติเซ่น

ถ้าคุณและบุตรมีคุณสมบัติครบตามกฎเกณฑ์ที่กล่าวมา คุณไปขอพาสปอร์ตอเมริกันได้เลยเพื่อให้เด็กใช้เป็นหลักฐานว่าเป็นอเมริกันซิ ติเซ่น ถ้าคุณอยากขอใบซิติเซ่นให้เด็กก็ขอได้โดยจ่ายค่าธรรมเนียมและยื่นแบบฟอร์ม N-600